5 สมุนไพรหาง่าย ควรมีไว้สามัญประจำบ้าน
ทุกบ้านต้องมียาสามัญประจำบ้านอย่างน้อย 1-3 อย่างเสมอ ได้แก่ ยาแก้ปวดหรือพาราเซตามอล ยาดม และยาหม่อง เพราะอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นได้เสมอ ตั้งแต่อาการเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างคัดจมูก น้ำมูกไหล ไปจนถึงไข้ขึ้นสูง หากบรรเทาเองได้จากยาในบ้านก็ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ แต่ถ้ายาหมดขึ้นมา สิ่งที่จะใช้ทดแทนกันได้ก็คือสมุนไพรก้นครัวที่ใช้กันมาแต่โบร่ำโบราณนั่นเอง ทั้งหาง่าย ราคาไม่แพง แถมยังปลอดภัยอีกด้วย
ทำไมต้องมีสมุนไพรไว้ติดบ้าน
เหตุผลที่ทุกบ้านควรมีสมุนไพรติดไว้ หรือปลูกไว้หากมีพื้นที่เพียงพอ ก็คือสมุนไพรเป็นยาจากธรรมชาติ ยารักษาโรคเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มนุษย์ทุกคนควรมีไว้ใกล้ตัว ซึ่งทุกวันนี้มนุษย์สามารถสกัดสารที่เป็นยาออกมาจากพืช แล้วปรุงให้เป็นยาสำเร็จรูปแบบยาเม็ด แคปซูล หรือยาน้ำ สามารถดื่มหรือกินได้ทันที ทั้งนี้ ยาสำเร็จรูปแผนปัจจุบันจำเป็นต้องซื้อจากร้านขายยาที่มีความน่าเชื่อถือ หากต้องการใช้แล้วยาหมดขึ้นมา สมุนไพรจะเป็นตัวช่วยใกล้ตัวอย่างดี บรรเทาอาการพื้นฐานต่าง ๆ ไปจนถึงปฐมพยาบาลจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ ได้ อีกทั้งยังนำมาประกอบอาหารบำรุงร่างกายได้ทุกวันอีกด้วย
5 สมุนไพรสามัญประจำบ้าน หยิบมาใช้ได้ทุกเมื่อ
สมุนไพรที่ควรมีติดบ้านไม่จำเป็นต้องเป็นพืชหายากปลูกยาก แต่เป็นพืชที่อยู่ใกล้ตัว พบเห็นได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป สมุนไพรบางชนิดก็ถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมของยาทาภายนอกเพื่อให้ใช้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ลองเช็กดูว่าที่ห้องครัวบ้านคุณมีสมุนไพร 5 ชนิดนี้แล้วหรือยัง
1.ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ มักอยู่ในรูปแบบวุ้นที่ผสมมาในอาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริมความงามสูตรให้ความชุ่มชื้น แต่ถ้าต้องการปลูกเองก็สามารถทำได้เนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกง่าย มีสรรพคุณช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น หากรับประทานจะช่วยบรรเทาอาการเบาหวาน ลำไส้อักเสบ และอาการปวดตามข้อ
2.ไพล
ไพลเป็นสมุนไพรที่นิยมสำหรับใช้เป็นยาภายนอก เพราะช่วยต้านเชื้อราหรือแบคทีเรียได้ดี สามารถใช้เป็นส่วนผสมทาแผลสดและผดผื่นคันได้ ลดอาการอักเสบ ส่วนใบใช้แก้อาการปวดกล้ามเนื้อ หากรับประทานช่วยแก้อาการปวดท้อง ท้องผูก และท้องเสีย
3.กะเพรา
กะเพราเป็นสมุนไพรที่ทุกคนเคยรับประทานส่วนใบ ช่วยขับลมและแก้อาการจุกเสียดที่ท้องได้ ช่วยขับน้ำตาลและไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายได้ สามารถนำใบมาตำแล้วพอกแก้ลมพิษและรักษากลากเกลื้อนได้ อีกทั้งยังมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยไล่ยุงได้อีกด้วย
4.ตะไคร้
ตะไคร้มีทั้งชนิดที่ใช้กินคือตะไคร้แกง และชนิดที่ไม่ควรกินคือตะไคร้หอม ก่อนใช้จึงต้องแยกชนิดให้ดี ตะไคร้สำหรับกินจะช่วยให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับลม แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ และบรรเทาไข้หวัดได้ ส่วนตะไคร้หอมมีน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ไล่ยุงได้ หรือใช้เป็นกลิ่นช่วยให้ผ่อนคลาย ผสมกับน้ำมันสำหรับนวด
5.พริกไทยอ่อน
พริกไทยอ่อนเป็นสมุนไพรที่นำมาปรุงอาหารได้หลายเมนู ช่วยขับลมในท้อง แก้จุกเสียด ท้องอืด ท้องร่วง รักษาอาการความดันโลหิตสูง บรรเทาอาการปวดและวิงเวียนศีรษะ ขับเสมหะ ลดไข้ และยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
สมุนไพรเหล่านี้ควรใช้หรือกินในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีฤทธิ์ร้อน หากร่างกายได้รับมากเกินไปจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี และอย่าลืมกินอาหารอื่น ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน ช่วยเสริมสรรพคุณให้สมุนไพรดีต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น