ไมเกรน โรคยอดฮิตที่แสนทรมานแต่สมุนไพรเหล่านี้ช่วยบรรเทาอาการได้
ไมเกรน บางคนเรียกว่าปวดหัวข้างเดียว แต่ปวดหัวสองข้างก็เรียกว่าไมเกรนเหมือนกัน อาการปวดหัวจะมีลักษณะปวดตุบ ๆ เหมือนโดนบีบตรงขมับ ปวด ๆ หาย ๆ เป็นพัก ๆ ระยะเวลาในการปวดเป็นชั่วโมง หรือหลาย ๆ ชั่วโมง แต่จะไม่เกินหนึ่งวัน บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย ซึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรนนั้นจะแตกต่างไปในแต่ละคน ดังนั้นจึงควรสังเกตตัวเองว่า อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน
9 ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรน
สาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรน มีหลายปัจจัย ครอบคลุมทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ผู้ที่เป็นไมเกรนควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการ
1. นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อยเกินไป หรืออดนอน
2. ความเครียด อารมณ์หงุดหงิด การดำเนินชีวิตประจำวันต่าง ๆ อาจก่อให้เกิดความเครียดสะสม ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน ปัญหาสุขภาพ ความสัมพันธ์ รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจ
3. อาหารบางประเภท เช่น ช็อกโกแลต ถั่ว อาหารหมักดอง เนื้อสัตว์แปรรูป ชีส
4. เครื่องดื่มบางประเภท เช่น ชา กาแฟ โกโก้ ไวน์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ
5. แสง การใช้สายตามองแสงที่สว่างมาก ๆ เช่น แสงแดดจ้าตอนกลางวัน แสงไฟจากรถยนต์ในเวลากลางคืน หรือ แสงจากสปอร์ตไลท์ รวมทั้งแสงไฟกะพริบ
6. เสียง เมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดัง จ้อกแจ้ก จอแจ เช่น เสียงประกาศจากลำโพง เสียงบีบแตรบนถนน หรือ เสียงในสถานบันเทิงต่าง ๆ
7. กลิ่น เมื่อจมูกได้กลิ่นที่รุนแรงหรือกลิ่นฉุน เช่น กลิ่นน้ำมันรถ กลิ่นบุหรี่ กลิ่นน้ำหอม
8. อากาศ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทั้งอากาศที่เย็นเกินไปและร้อนเกินไป
9. ฮอร์โมน ในเพศหญิงช่วงที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงมีประจำเดือน ช่วงกำลังตั้งครรภ์ หรือการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด
4 สมุนไพร ช่วยบรรเทาอาการไมเกรน
สมุนไพรหลายชนิดถูกนำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการไมเกรน ทั้งในรูปแบบที่เป็นสมุนไพรสดและแบบที่แปรรูปแล้ว เพื่อความสะดวกในการรับประทาน
1. ใบบัวบก
ใบบัวบก เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นจึงช่วยลดความร้อนภายในร่างกายได้ มีสรรพคุณช่วยลดอาการปวดศีรษะข้างเดียว แก้ปวดไมเกรน แก้ร้อนใน แก้ไข้ ตัวร้อน อ่อนเพลีย และมีสารไตรเตอร์พีนอยด์ (Triterpenoid) ซึ่งช่วยให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด จึงทำให้การไหลเวียนของหลอดเลือดดำและเส้นเลือดฝอยมีการไหลเวียนดีขึ้น
วิธีใช้ ให้ใช้ต้นสดของใบบัวบก 2 กำมือ นำมาคั้นกับน้ำสะอาด กินวันละ 2 ครั้งตอนเช้าและตอนเย็น หรือ จะกินสด ๆ เลยก็ได้ ถ้าไม่สะดวกสามารถหานี่ที่เป็นแคปซูลสำเร็จรูปมารับประทานได้
2. ขิง
ในเหง้าขิงมีสารสำคัญในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoid) และจินเจอร์รอล (gingerol) ซึ่งมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น การรับประทานขิงสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ ลดอาการปวดไมเกรน และช่วยในการผ่อนคลาย
วิธีใช้ รับประทานชนิดที่เป็นแคปซูลขนาด 50 มิลลิกรัม สำหรับคนที่ไม่ชอบทานยาเม็ด การจิบน้ำขิงอุ่น ๆ หรือน้ำขิงผสมน้ำตาลทรายก็สามารถใช้แทนได้
3. ว่านหางจระเข้
ใบของว่านหางจระเข้นั้นมีฤทธิ์เย็น มีส่วนประกอบของ อโลอิน (Aloin) และ อิโมดิน (Emodin) ที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ
วิธีใช้ นำใบของว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกออก ฝานให้เป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำไปล้างเพื่อเอายางที่ติดอยู่ออก จากนั้นนำปูนแดงมาทาที่ว่านหางจระเข้ เสร็จแล้วนำมาทาบริเวณขมับทั้ง 2 ข้างทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หรือดื่มน้ำว่านหางจระเข้ก็สามารถช่วยได้
4. สะระแหน่
ใบและลำต้นของสะระแหน่ มีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วยสารเมนทอล (Menthol) ที่มีฤทธิ์เย็น มีสรรพคุณใช้รักษาอาการอ่อนเพลีย บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
วิธีใช้ นำมาสกัดใช้เป็นน้ำมัน สำหรับสูดดม ทาและนวดบริเวณขมับ หรือจิบชาสะระแหน่ ที่ได้จากการนำใบสะระแหน่สดหรือตากแห้งบดละเอียด 2 ช้อนชา ชงในน้ำร้อน กรองดื่มแต่น้ำ
เมื่อมีอาการของไมเกรน พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นตัวกระตุ้น และใช้สมุนไพรเหล่านี้ ก็จะช่วยให้บรรเทาอาการของไมเกรนได้