ธรรมชาติบำบัดแบบง่าย ๆ ดูแลจิตใจให้สดใสแข็งแรง

ทุกคนต่างรู้ดีว่าการอยู่กับธรรมชาติดีต่อจิตใจและร่างกาย แต่โอกาสที่จะได้อยู่กับธรรมชาตินั้นถูกกลบด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบ นอกจากจะไม่ค่อยได้สัมผัสกับธรรมชาติแล้ว ยังมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น เนื่องจากร่างกายและจิตใจขาดสมดุล ไม่ได้รับการพักผ่อนที่มีคุณภาพอย่างเพียงพอ อีกทั้งยังขาดธรรมชาติมาหล่อเลี้ยงจิตใจ หากไม่สามารถหาเวลาไปพักผ่อนตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้ จะมีวิธีไหนบ้างที่ช่วยให้ร่างกายได้รับการบำบัดจากธรรมชาติ

บำบัดแบบไหนเรียกว่าธรรมชาติบำบัด

ธรรมชาติบำบัดคือการอยู่กับธรรมชาติเพื่อรักษาจิตใจหรือสภาวะทางอารมณ์เป็นหลัก แตกต่างจากการรักษาโดยแพทย์ทางเลือกที่ใช้วิธีรักษาจากธรรมชาติ เช่น การใช้ยาสมุนไพร การล้างสารพิษด้วยพืช การฝังเข็ม เป็นต้น กิจกรรมที่เป็นการทำธรรมชาติบำบัดมีหลายรูปแบบ เน้นไปที่การอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้แก่ ป่าไม้ ทะเล งานศิลปะจากวัสดุธรรมชาติ การดูแลและให้อาหารสัตว์ในฟาร์ม เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยผ่อนคลายความเครียด ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ส่งผลให้มีสภาพอารมณ์แจ่มใสมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ควรมีความสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว

ธรรมชาติบำบัดทำเองง่าย ๆ ไม่ต้องเข้าป่าก็ทำได้

ถึงแม้หลักการของธรรมชาติบำบัดคือการเอาตัวเองไปอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องหาเวลาเข้าป่าหรือไปเที่ยวน้ำตกให้ได้ทุก ๆ วันหยุดสัปดาห์ หากไม่สะดวกสามารถนำกิจกรรมธรรมชาติบำบัดต่าง ๆ มาปรับใช้ให้เข้ากับที่อยู่อาศัยของตัวเองได้ ขอให้เป็นกิจกรรมที่ตัวเองชอบและสร้างความผ่อนคลายได้ก็เพียงพอ

1.มีมุมปลูกต้นไม้เล็ก ๆ เป็นของตัวเอง

การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้านหรือในห้อง เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เข้าถึงธรรมชาติบำบัดแบบง่าย ๆ ยิ่งได้ใช้เวลาดูแลต้นไม้ด้วยตัวเอง คอยสังเกตความเปลี่ยนแปลง เห็นต้นไม้เติบโต จะช่วยให้เกิดความรู้สึกดีมากขึ้น อีกทั้งสีเขียวยังเป็นสีที่สบายตา ช่วยผ่อนคลายเมื่ออยากพักสายตาได้ดี

2.หลับตาฟังเสียงธรรมชาติวันละ 5-10 นาที

เสียงธรรมชาติช่วยให้คนฟังรู้สึกผ่อนคลาย สามารถทำร่วมกับการนั่งสมาธิ หรือนอนพักสายตาจากงานสักครู่หนึ่งก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงน้ำตก เสียงฝนตก เสียงนกร้องในป่า หรือแม้แต่เสียงไฟที่กำลังไหม้ฟืนในเตาผิง ก็ช่วยให้จินตนาการถึงช่วงเวลาพักผ่อนที่สงบสุขได้

3.ใช้กลิ่นหอมจากธรรมชาติ

กลิ่นจากธรรมชาติมีสรรพคุณช่วยคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลิ่นของผลไม้ตระกูลส้มช่วยให้รู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น อาจเลือกกลิ่นที่ชอบจากเทียนหอม หรือดมกลิ่นจากธรรมชาติโดยตรง เช่น ดอกไม้ที่ปลูกไว้ ชาสมุนไพร เปลือกส้ม วานิลลาสด เป็นต้น

4.ใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยง

สัตว์เลี้ยงคือของขวัญที่ทำให้เจ้าของมีความใจเย็น การสัมผัสสัตว์เลี้ยง สังเกตความเปลี่ยนแปลง อาบน้ำ แปรงขน และเล่นด้วยกัน ช่วยคลายเครียดและสร้างความสุขได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ สัตว์เลี้ยงยังช่วยกระตุ้นให้เจ้าของได้ทำกิจกรรมที่ขยับร่างกายมากขึ้น จึงได้ออกกำลังกายไปในตัว

กิจกรรมเหล่านี้เป็นวิธีธรรมชาติบำบัดง่าย ๆ ที่สามารถทำด้วยตัวเองได้ทุกวัน ทั้งนี้ ควรหาเวลาดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มาจากธรรมชาติไม่ผ่านการแปรรูป และควรหาเวลาไปลองทำกิจกรรมธรรมชาติบำบัดนอกสถานที่อย่างเต็มที่