HIIT คืออะไร ทำไมถึงช่วยลดน้ำหนักได้เร็ว มีอะไรบ้างที่ต้องระวัง
การออกกำลังกายแบบ HIIT หรือ High-Intensity Interval Training เป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้เวลาน้อย แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งเกิดมาจากการผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่มีความเข้มข้นสูง (High-Intensity Aerobic) กับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Anaerobic) เข้าด้วยกัน โดยการแบ่งการออกกำลังกายออกเป็นช่วง ๆ โดยช่วงแรกจะเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่มีความเข้มข้นสูง ในช่วงที่สองจะเป็นช่วงพักฟื้น จากนั้นจึงสลับกันทำไปเรื่อย ๆ
ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบ HIIT กับการลดน้ำหนัก
1. ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิกแบบเดิม ๆ หลายเท่า เนื่องจากในช่วงที่ออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่มีความเข้มข้นสูง ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตและไขมันในปริมาณมาก ในช่วงพักฟื้น ร่างกายจะยังคงเผาผลาญพลังงานจากไขมันต่อไป ทำให้สามารถเผาผลาญแคลอรีได้อย่างต่อเนื่อง
2. ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นแม้ขณะพัก ส่งผลให้สามารถลดน้ำหนักและลดไขมันได้อย่างรวดเร็ว
3. ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อได้มากขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น กล้ามเนื้อจะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นแม้ขณะพัก ส่งผลให้สามารถลดน้ำหนักและลดไขมันได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. ช่วยปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้น และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
5. ช่วยปรับปรุงสุขภาพจิต ทำให้อารมณ์ดีขึ้น และลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้า
การออกกำลังกายแบบ HIIT เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักและลดไขมันอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับผู้เริ่มต้นควรเริ่มออกกำลังกายแบบ HIIT ในระดับที่เบาก่อน และค่อย ๆ เพิ่มระดับความเข้มข้นขึ้นทีละน้อย เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
7 ข้อที่ควรระวังและใส่ใจ หากต้องการออกกำลังกายแบบ HIIT
การออกกำลังกายแบบ HIIT เป็นการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการออกกำลังกายแบบ HIIT ตามข้อควรระวังต่อไปนี้
1. ควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว
2. เริ่มออกกำลังกายในระดับที่เบาก่อน และค่อย ๆ เพิ่มระดับความเข้มข้นขึ้นทีละน้อย
3. อบอุ่นร่างกายหรือวอร์มอัพก่อนออกกำลังกาย อย่างน้อย 5-10 นาที เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการออกกำลังกาย
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกาย
5. ควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย อย่างน้อย 5-10 นาที
6. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
7. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบทั้ง 5 หมู่
หากปฏิบัติตามข้อควรระวังเหล่านี้อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้คุณออกกำลังกายแบบ HIIT ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บและช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก HIIT อย่างแน่นอน