แนะนำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิตผู้สูงอายุ ดีต่อจิตใจและร่างกาย

สุขภาพจิตกลายเป็นประเด็นด้านสุขภาพที่สำคัญมากขึ้น แตกต่างจากสมัยก่อนที่ผู้คนเน้นหาสาเหตุความเจ็บป่วยจากร่างกาย แต่ต้นเหตุที่แท้จริงอาจมาจากสภาพจิตใจโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคด้านจิตใจได้ สำหรับผู้สูงอายุ โอกาสเสี่ยงมักเกิดจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ร่างกายที่ไม่แข็งแรงดังเดิม หากมีกิจกรรมที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานทางใจให้กับผู้สูงอายุได้ ก็จะช่วยให้การใช้ชีวิตในบั้นปลายราบรื่นยิ่งขึ้น

กิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุควรเป็นอย่างไร

เนื่องจากผู้สูงอายุมีข้อจำกัดเรื่องสมรรถภาพทางกาย กิจกรรมที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุควรเป็นกิจกรรมง่าย ๆ แต่ทำได้นาน ให้ความเพลิดเพลินและสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรอยู่ในอิริยาบถเดิมซ้ำ ๆ นานเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามมา ยิ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมคุณค่าทางจิตใจ ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ไม่ได้อยู่ในสถานะที่เป็นภาระต้องพึ่งพาผู้อื่นเพียงอย่างเดียว กิจกรรมนั้นยิ่งส่งเสริมให้สุขภาพจิตของผู้สูงอายุดีขึ้น กิจกรรมที่ทำง่าย มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และดีต่อสุขภาพร่างกาย จึงเป็นกิจกรรมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ

4 กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิต ที่ผู้สูงอายุควรทำทุกวัน

กิจกรรมบางอย่างอาจจำเป็นต้องรอโอกาสหรือเวลาที่เหมาะสม ต้องเดินทางออกนอกบ้าน จึงอาจเกิดความไม่สะดวกอยู่บ้าง หากมีกิจกรรมง่าย ๆ ที่ทำที่บ้านได้ทุกวัน บวกกับลูกหลานให้ความร่วมมือด้วย ผู้สูงอายุก็จะมีโอกาสสุขภาพจิตแข็งแรงได้ทุกวันนั่นเอง

1.ทำสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ

สิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ สำหรับทุกเพศทุกวัย ทำได้เลยทันที คือการกลับมาอยู่กับลมหายใจของตัวเอง ผู้สูงอายุอาจมีเรื่องให้คิดมากหรือกังวลบ้าง ยิ่งมีเวลาว่างมากกว่าปกติอาจทำให้อยู่กับความคิดจนฟุ้งซ่านได้ หากทำสมาธิบ่อย ๆ จะช่วยให้จิตใจสงบมากขึ้น การทำสมาธิมีหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นการภาวนาตามหลักศาสนาเสมอไป เลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเอง

2.เลือกงานอดิเรกที่ผ่อนคลาย ทำได้ด้วยตนเอง

งานอดิเรกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานประดิษฐ์ งานศิลปะ ดนตรี ปลูกต้นไม้ และอื่น ๆ ที่ทำด้วยตนเองได้ จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองกำลังสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น เมื่อทำเสร็จแล้วหมั่นชื่นชมตนเอง ไม่กดดันเพราะไม่ได้ทำงานอดิเรกแข่งกับใคร แต่เป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตนเองอย่างมีความสุข

3.พูดคุยเรื่องดี ๆ กับคนในครอบครัว

การพูดคุยเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น หากพูดคุยในเรื่องที่สร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจ ก็จะช่วยให้ความสัมพันธ์ที่มีต่อดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเองให้กับลูกหลาน นอกจากจะได้เล่าในสิ่งที่อยากเล่าแล้ว ยังช่วยส่งต่อความรู้ให้กับคนรุ่นต่อไปได้

4.ออกกำลังกายเบา ๆ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการออกกำลังกายจำเป็นต้องมีอยู่ในแผนการดำเนินชีวิต อย่างน้อยคือการเดินเล่นในสวนสาธารณะใกล้บ้าน หรือการเดินดูต้นไม้ในสวนหลังบ้านก็ยังดี ขอแค่ให้มีการขยับร่างกาย ไม่อยู่ติดที่มากเกินไป ยิ่งถ้าได้ออกกำลังกายเป็นกลุ่มยิ่งช่วยเสริมความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับสังคม

กิจกรรมทั้งหมดดังกล่าวสามารถปรับประยุกต์ได้หลายรูปแบบ แถมนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยได้มาก เช่น การออกกำลังกายตามคลิปวิดีโอบนอินเทอร์เน็ต การฟังเพลงแนวใหม่ ๆ ของวัยรุ่น หรือวิดีโอคอลหาครอบครัว ชีวิตของผู้สูงอายุก็จะไม่เงียบเหงาเพราะมีกิจกรรมดี ๆ ได้ทุกวัน