8 ท่าโยคะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ สำหรับระดับเริ่มต้นที่ทำง่าย ๆ

โยคะเป็นศาสตร์ที่เก่าแก่มีประวัติยาวนานกว่า 5,000 ปี คำว่า “โยคะ” มาจากภาษาสันสกฤต หมายถึง “การรวมกัน” หรือ “การเชื่อมโยง” โยคะมีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศอินเดียโบราณโดยฤๅษี พวกเขาเชื่อว่าการฝึกโยคะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง จิตใจสงบ และเข้าถึงสภาวะจิตวิญญาณที่สูงขึ้น

ฝึกโยคะให้ประโยชน์ทั้งกายและจิตวิญญาณ

การฝึกโยคะเป็นศาสตร์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งกายและจิตวิญญาณ ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มฝึกโยคะได้ง่าย ๆ ด้วยตนเองหรือเรียนกับครูสอนโยคะที่มีประสบการณ์ ต่อจากนี้คือประโยชน์ที่ได้รับเมื่อฝึกโยคะ

1. ประโยชน์ต่อกาย

ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีความยืดหยุ่น ลดความเครียด บรรเทาอาการปวดเมื่อย ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น

2. ประโยชน์ต่อจิตวิญญาณ

ช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิดีขึ้น รู้สึกผ่อนคลาย มีความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มพูนสติปัญญาให้มีความเข้าใจในตนเองและผู้อื่นมากขึ้น ละทิ้งซึ่งสิ่งรบกวนและกิเลสต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น

การฝึกโยคะควรฝึกอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 3 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 30 – 60 นาที ในช่วงเริ่มต้นของการฝึก อาจมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติของร่างกายที่ปรับตัวให้เข้ากับการฝึกโยคะ อาการปวดเมื่อยจะค่อย ๆ หายไปเมื่อร่างกายปรับตัวดีขึ้น

8 ท่าโยคะที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นฝึกโยคะ แนะนำให้เริ่มฝึกท่าโยคะง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ก่อน เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวและคุ้นเคยกับท่าโยคะ ต่อไปนี้เป็น 8 ท่าโยคะที่เริ่มต้นได้ง่าย โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์

1. ท่าต้นไม้

ท่านี้ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางและสมาธิ เริ่มต้นด้วยการยืนตัวตรง วางเท้าข้างหนึ่งลงบนต้นขาข้างตรงข้าม เหยียดแขนข้างตรงข้ามขึ้นเหนือศีรษะ ค้างไว้ 30 วินาทีแล้วหายใจออก เปลี่ยนข้างและทำซ้ำ

2. ท่าสุนัขมองต่ำ

ท่านี้ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังและขา เริ่มต้นด้วยการคลานคว่ำลง วางมือใต้ไหล่และเหยียดขาตรงไปด้านหลัง ดึงสะโพกขึ้นให้ร่างกายของคุณเป็นรูปตัว V ค้างไว้ 30 วินาทีแล้วหายใจออก

3. ท่าเด็ก

ท่านี้ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังและคอ เริ่มต้นด้วยการนั่งคุกเข่า วางหน้าอกลงบนต้นขา เหยียดแขนไปด้านหน้า ค้างไว้ 30 วินาทีแล้วหายใจออก

4. ท่าสะพาน

ท่านี้ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อก้นและต้นขา เริ่มต้นด้วยการนอนหงาย งอเข่า วางเท้าราบกับพื้น ยกสะโพกขึ้นให้ร่างกายของคุณเป็นรูปคล้ายสะพานโค้งค้างไว้ 30 วินาทีแล้วหายใจออก

5. ท่าโค้งตัวไปด้านหลัง

ท่านี้ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังและคอ เริ่มต้นด้วยการนั่งคุกเข่า วางมือไว้ใต้ไหล่ งอหลังขึ้นและยื่นคอไปข้างหน้า ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นโค้งหลังลงและดึงคอไปด้านหลัง ค้างไว้ 5 วินาที ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง

6. ท่ายืดขาเหยียดแขน

ท่านี้ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อทั้งหมด เริ่มต้นด้วยการนอนหงาย เหยียดขาตรงไปข้างหน้า ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ ค้างไว้ 30 วินาทีแล้วหายใจออก

7. ท่าปลา

ท่านี้ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลัง คอ และไหล่ เริ่มต้นด้วยการนอนหงาย งอเข่า วางเท้าราบกับพื้น ยกสะโพกขึ้น วางมือไว้ด้านหลังศีรษะ ดันสะโพกขึ้นและดึงศีรษะไปด้านหลัง ค้างไว้ 30 วินาทีแล้วหายใจออก

8. ท่านั่งบิดตัว

ท่านี้ช่วยยืดกล้ามเนื้อด้านข้างของร่างกาย เริ่มต้นด้วยการนั่งขัดสมาธิ วางมือไว้ด้านหลัง บิดตัวไปด้านหนึ่ง ค้างไว้ 30 วินาทีแล้วหายใจออก เปลี่ยนข้างและทำซ้ำ

การฝึกโยคะอย่างปลอดภัยและได้ผลดี เริ่มต้นจากการฟังร่างกายของตนเอง ค่อย ๆ ฝึกท่าโยคะง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อย่างค่อยเป็นค่อยไปก่อน เมื่อร่างกายปรับสภาพจนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น จึงฝึกท่าโยคะที่ยากขึ้นไปอีกระดับ เพียงเท่านี้สุขภาพที่ดีก็หาได้ง่ายจากที่บ้านของท่านเอง