แค่หายใจเป็น ก็เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายได้ แม้จะใช้เวลาเท่าเดิม

แค่หายใจเป็น ก็เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายได้ แม้จะใช้เวลาเท่าเดิม

การหายใจกับการออกกำลังกายมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ใช้พลังงานสูง ทำให้ร่างกายต้องการออกซิเจนมากขึ้นเพื่อเผาผลาญพลังงานและผลิตพลังงานใหม่ ออกซิเจนจะถูกลำเลียงเข้าสู่ร่างกายผ่านทางระบบหายใจ เมื่อร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ กล้ามเนื้อก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การออกกำลังกายเป็นไปอย่างราบรื่น

3 ประโยชน์ของการหายใจที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยเรื่องการออกกำลังกายของคุณ

การหายใจที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวม 3 ประโยชน์ที่ได้สรุปออกมาแล้วเพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าการหายใจนั้นก็มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นกัน

1. ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น เมื่อเราหายใจเข้า ร่างกายจะได้รับอากาศที่มีออกซิเจนเข้าสู่ปอด เมื่อหายใจออก ร่างกายจะปล่อยอากาศที่มีคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ออกซิเจนจะถูกลำเลียงเข้าสู่กระแสเลือดและส่งไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อใช้ในการเผาผลาญพลังงาน เซลล์ที่มีออกซิเจนเพียงพอก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. ช่วยลดความเหนื่อยล้า เมื่อร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ กล้ามเนื้อก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ร่างกายไม่เหนื่อยล้าเร็ว ในทางกลับกัน หากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ กล้ามเนื้อก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ร่างกายเหนื่อยล้าเร็วขึ้น

3. ป้องกันอาการบาดเจ็บ การหายใจที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อมีแรงต้านทานต่อแรงกระแทกได้ดีขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บได้

นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจอีกด้วย เมื่อออกกำลังกายเป็นประจำ กล้ามเนื้อที่ใช้หายใจและอวัยวะภายในอย่างปอดก็จะแข็งแรงขึ้น ทำให้สามารถหายใจได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การหายใจที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ออกกำลังกายได้นานขึ้น ไม่เหนื่อยล้าง่าย การหายใจที่ไม่ได้ผ่านการฝึกฝนอาจทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ออกกำลังกายได้ไม่นาน เหนื่อยล้าง่าย หรืออาจเกิดอาการบาดเจ็บได้

2 เทคนิคการฝึกการหายใจที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายของคุณให้ดียิ่งขึ้น

การฝึกการหายใจที่ดีเปรียบเสมือนการเตรียมน้ำมันหล่อลื่นให้กับเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับการฝึกการหายใจที่ดีจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น จะมีเทคนิคดี ๆ อะไรบ้าง มารับชมไปพร้อมกัน

1. การฝึกการหายใจแบบใช้กะบังลม (Diaphragmatic Breathing) เป็นการฝึกหายใจโดยให้กะบังลมเป็นกล้ามเนื้อหลักในการหายใจ โดยเมื่อหายใจเข้า กะบังลมจะเคลื่อนตัวลง ทำให้ช่องท้องขยายออก เมื่อหายใจออก กะบังลมจะเคลื่อนตัวขึ้น ทำให้ช่องท้องยุบลง การหายใจแบบนี้จะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

วิธีการฝึก

1. นั่งหรือนอนในท่าที่ผ่อนคลาย วางมือหนึ่งบนท้อง และอีกมือหนึ่งบนหน้าอก

2. หายใจเข้าทางจมูกช้า ๆ โดยให้ท้องขยายออก มือที่วางบนท้องจะยกขึ้น

3. หายใจออกทางปากช้า ๆ โดยให้ท้องยุบลง มือที่วางบนท้องจะลดต่ำลง

4. ทำซ้ำประมาณ 5-10 ครั้ง

2. การฝึกหายใจแบบมีจังหวะ (Breathing With Rhythm) เป็นการฝึกหายใจโดยกำหนดจังหวะในการหายใจ โดยปกติแล้ว การหายใจเข้าและหายใจออกจะใช้เวลาเท่ากัน แต่ในการหายใจแบบมีจังหวะ เราสามารถกำหนดให้หายใจเข้านานขึ้น หายใจออกนานขึ้น หรือหายใจเข้าสั้นลง หายใจออกสั้นลงก็ได้ การหายใจแบบนี้จะช่วยให้ร่างกายสามารถปรับตัวเข้ากับการออกกำลังกายได้ดีขึ้น

วิธีการฝึก

1. นั่งหรือนอนในท่าที่ผ่อนคลาย กำหนดจังหวะในการหายใจ เช่น หายใจเข้า 4 วินาที หายใจออก 6 วินาที

2. ทำตามจังหวะที่กำหนดไว้

3. ทำซ้ำประมาณ 5-10 ครั้ง

นอกจากเทคนิคการฝึกหายใจที่ได้กล่าวไปแล้ว ก็ยังมีเทคนิคการฝึกหายใจแบบอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจในการออกกำลังกายได้เช่นกัน แต่เทคนิคที่นำมาเสนอถือเป็นเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มของผู้ที่ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top