ออกกำลังกายแบบคนขี้เกียจ ทำได้ง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง
ความขี้เกียจออกกำลังกาย อาจเป็นอุปสรรคต่อสุขภาพของเราได้ เพราะการออกกำลังกายมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายและจิตใจ เช่น ช่วยลดน้ำหนักและลดไขมัน ช่วยให้หัวใจแข็งแรง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยผ่อนคลายความเครียด
การออกกำลังกายแบบคนขี้เกียจเป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องออกแรงมาก ใช้เวลาไม่นาน และสามารถทำได้บ่อยครั้ง เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย แต่ต้องการมีสุขภาพที่ดี
3 ตัวอย่างการออกกำลังกายที่ไม่ว่าจะขี้เกียจแค่ไหนก็ทำได้
ขึ้นชื่อว่าความขี้เกียจแล้ว ถือว่าเป็นอาการปกติของคนทั่ว ๆ ไป การออกกำลังกายแบบคนขี้เกียจ สามารถทำได้หลากหลายวิธี และนี่คือ 3 ตัวอย่างที่คัดเลือกมาเพื่อคนขี้เกียจโดยเฉพาะ
1. การเดินเร็ว
เป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ไม่ต้องมีทักษะพิเศษ และสามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคข้อเสื่อม และโรคมะเร็งบางชนิด การเดินเร็วให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรเดินเร็วอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 5 วัน
2. การยกน้ำหนัก
เป็นการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ถ้าไม่มีอุปกรณ์ก็สามารถใช้ขวดน้ำขนาด 1 ลิตร เติมน้ำเข้าไปจนเต็มขวด แล้วปิดฝาขวดให้แน่น ใช้ยกแทนดัมเบลได้ ถ้าต้องการเปลี่ยนน้ำหนักก็เปลี่ยนขนาดขวด การยกน้ำหนักช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจและปอด ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้น เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและอัตราการเผาผลาญพลังงาน ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น นอกจากนี้การยกน้ำหนักยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงของร่างกาย ทำให้มีบุคลิกภาพดีขึ้น ควรยกน้ำหนักโดยแบ่งเป็นเซ็ต ๆ ละประมาณ 18 ครั้งเป็นอย่างต่ำในน้ำหนักเริ่มต้น และลดจำนวนครั้งลงในกรณีที่เพิ่มน้ำหนักขึ้น ควรยกน้ำหนักเป็นระยะเวลาสัปดาห์ละ 3 วัน
3. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อขยายกล้ามเนื้อให้ยืดออก เป็นการช่วยให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และป้องกันการบาดเจ็บจากการออกแรง การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เพียงเลือกท่ายืดเหยียดที่เหมาะสมกับกล้ามเนื้อที่ต้องการยืด และยืดค้างไว้ประมาณ 30 วินาที และทำซ้ำ 2-3 ครั้ง ควรยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 5-10 นาที จะช่วยให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นและแข็งแรงมากขึ้น
บ่อยครั้งที่ความขี้เกียจมักเข้ามาครอบงำจิตใจของคนเราอยู่เสมอ การขจัดความขี้เกียจออกไปนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่าย ๆ แต่ถ้าคุณอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวคุณเองก็เป็นสิ่งสำคัญในการที่จะช่วยให้บรรเทาอาการขี้เกียจลงได้
4 เคล็ดลับการแก้ไขพฤติกรรม ดลบันดาลให้ความขี้เกียจจงหายไป
หากคุณเป็นคนที่กำลังขี้เกียจออกกำลังกาย และพยายามมองหาวิธีแก้ไขเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง ลองทำสิ่งเหล่านี้ดูสิ
1. ตั้งเป้าหมายการออกกำลังกายที่เป็นไปได้ เช่น ตั้งเป้าว่าจะเริ่มออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละ 30 นาที
2. หาเพื่อนไปออกกำลังกายด้วยกัน การมีเพื่อนออกกำลังกายด้วยกันจะช่วยให้เรามีแรงกระตุ้นมากขึ้น
3. ลองเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกาย หากเราเบื่อการออกกำลังกายแบบเดิม ลองเปลี่ยนเป็นการออกกำลังกายแบบอื่น เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ หรือเล่นโยคะ
4. จดบันทึกการออกกำลังกาย การจดบันทึกการออกกำลังกายจะช่วยให้เราเห็นพัฒนาการของเราและรู้สึกภูมิใจในตัวเอง
หากเราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ อาจจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม