ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ด้วยการฉีดวัคซีน HPV

ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ด้วยการฉีดวัคซีน HPV

สังคมมีความเปิดกว้างเรื่องเพศมากขึ้น สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้เรื่องสุขภาพทางเพศมากขึ้น แต่โอกาสเสี่ยงต่าง ๆ ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงล้วนมีความเสี่ยงหากไม่รู้วิธีป้องกันตนเอง และมีแนวโน้มว่าผู้หญิงจะใส่ใจเรื่องการป้องกันมากกว่าผู้ชาย นอกจากใช้วิธีป้องกันด้วยการไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ หรือใช้ถุงยางอนามัยแล้ว การฉีดวัคซีนก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้หลายโรค ทุกคนควรรู้จักวัคซีน HPV วัคซีนที่ควรฉีดเมื่ออายุถึงเกณฑ์ที่จะรับวัคซีนได้

วัคซีน HPV คืออะไร ป้องกันโรคอะไรได้บ้าง

HPV ย่อมาจาก Human Papilloma Virus เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก การฉีดวัคซีน HPV คือการฉีดเชื้อไวรัสโดยเลือกจาก HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 ให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันในขณะที่ยังไม่เคยติดเชื้อมาก่อน แต่ปัจจุบันได้กับการพัฒนาให้สามารถป้องกันได้ทั้งแบบ 2 สายพันธุ์ 4 สายพันธุ์ และ 9 สายพันธุ์แล้ว วัคซีนจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันก็ต่อเมื่อผู้ฉีดยังไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อนเท่านั้น

ในเพศหญิง วัคซีน HPV สามารถป้องกันโรคได้ คือ โรคมะเร็งปากมดลูก, มะเร็งปากช่องคลอด, มะเร็งผนังช่องคลอด, มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปาก และมะเร็งคอหอย ในขณะที่ผู้ชายสามารถป้องกันโรคมะเร็งองคชาต, มะเร็งทวารหนัก, มะเร็งช่องปาก มะเร็งคอหอยได้เช่นกัน อีกทั้งยังป้องกันโรคหูดหงอนไก่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงอีกด้วย โรคดังกล่าวโดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูกนั้นเกิดจากการสัมผัสผู้ที่มีเชื้อ HPV ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยตรง จึงต้องป้องกันก่อนมีเพศสัมพันธ์และฉีดวัคซีนเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงรุนแรงมากขึ้น

ฉีดวัคซีน HPV ได้เมื่อไร ควรปฏิบัติตัวอย่างไรก่อนและหลังฉีด

วัคซีน HPV สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป แต่เนื่องจากเป็นวัคซีนที่มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวัคซีนพื้นฐานที่ควรได้รับ จึงเริ่มฉีดตั้งแต่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นก็ได้ ข้อสำคัญคือต้องฉีดก่อนที่ร่างกายจะได้รับเชื้อหรือก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจะป้องกันได้ดีที่สุด กำหนดการฉีดมีทั้งหมด 3 ครั้ง ระยะห่างแต่ละเข็มแล้วแต่ดุลยพินิจของแพทย์ โดยข้อปฏิบัติในการฉีดวัคซีน HPV มีดังนี้

1.ก่อนการฉีดวัคซีน ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจภายในเพื่อคัดกรองก่อน แต่ควรสังเกตภาวะร่างกายของตนเอง เช่น รอบเดือนมาเมื่อไร ป้องกันระหว่างมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งหรือไม่ ทานยาคุมแบบใด มีอาการคล้ายกับแพ้ท้องหรือไม่ เป็นต้น เพราะเป็นข้อมูลที่จำเป็น

2.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันฉีดวัคซีน เพื่อลดอาการจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

3.เมื่อฉีดแล้วควรงดการคุมกำเนิดไปก่อน แล้วเริ่มคุมกำเนิดหลังฉีดครบแล้ว 1 เดือน

การฉีดวัคซีน HPV เป็นการป้องกันร่างกายตนเองวิธีหนึ่ง อย่างน้อยที่สุดแม้ไม่เสี่ยงกับโรค แต่ลดโอกาสที่ตนเองจะเป็นพาหะนำโรคไปสู่ผู้อื่นได้ นอกจากนี้ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกรวมถึงโรคอื่น ๆ ยังคงจำเป็นแม้ฉีดวัคซีนไปแล้ว ผู้หญิงควรตรวจภายในปีละ 1 ครั้ง ผู้ชายเองก็ควรตรวจสุขภาพทุกปีและป้องกันเสมอ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของตัวเอง

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top