ไม่อยากซึมเศร้า แค่ขยับเบา ๆ ก็ป้องกันได้

สาเหตุหนึ่งของการฆ่าตัวตายในปัจจุบันคือโรคซึมเศร้า โรคนี้กลายเป็นภัยเงียบใกล้ตัวที่ลุกลามไปทั่วโลก เป็นโรคที่น่ากลัว เกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย อาการของโรคคือ รู้สึกไม่มีความสุข ไร้ค่า บางครั้งผู้ป่วยถึงขั้นตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย แต่โรคอันแสนน่ากลัวนี้สามารถป้องกันได้แค่คุณขยับร่างกายแค่นั้นเอง

เหตุใดการออกกำลังกาย จึงสามารถป้องกันและบรรเทาโรคซึมเศร้าได้

เป็นที่ทราบกันดีว่าการออกกำลังกายส่งผลดีต่อสุขภาพ แต่นอกจากนั้น ยังส่งผลดีกับสภาพจิตใจอีกด้วย วันนี้เราสรุป 5 ข้อดีของการออกกำลังกายที่ส่งผลต่อโรคซึมเศร้ามาฝาก

1.การออกกำลังช่วยให้มีการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endorphins)

สารเอ็นโดรฟิน คือ สารแห่งความสุข เมื่อร่างกายมีการหลั่งสารเอ็นโดรฟินจะช่วยทำให้โรคซึมเศร้ามีอาการดีขึ้น และช่วยป้องกันการเกิดภาวะซึมเศร้าได้ถึง 18%

2.ช่วยเพิ่มอะดรีนาลีน

การออกกำลังกายทำให้ร่างกายผลิตอะดรีนาลีนเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยทำให้ความเครียดลดลง

3.ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

โดยเฉพาะบริเวณเส้นเลือดที่ไปยังสมองใหญ่ส่วนนอกบริเวณกลีบหน้า (Frontal Lobe) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์และเพิ่มการหลั่งสารโดพามีนและเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่ช่วยทำให้อารมณ์ดี ลดความรู้สึกเศร้าหรือหดหู่ได้

4.ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น

การออกกำลังกายที่พอเหมาะจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายมีความต้องการพักผ่อน ทำให้นอนหลับได้สนิทมากขึ้น

5.ให้ผลดีในด้านอารมณ์ และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่มากขึ้น

เพิ่มความนับถือตนเอง รู้สึกรักตัวเองและภูมิใจในตนเอง มีการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากขึ้น

ประเภทของการออกกำลังกายที่แพทย์แนะนำ

ควรเป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความสนุก เพลิดเพลิน สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยควรออกกำลังกายครั้งละ 20-30 นาที จำนวน 2-4 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์ จะเป็นลักษณะการขยับร่างกายเบา ๆ ไปจนถึงการออกแบบจริงจังเลยก็ได้ โดยเลือกประเภทการออกกำลังกายคนเดียว หรือเป็นกลุ่มก็ไม่ผิด ซึ่งประเภทของการออกกำลังกายนั้นมีหลากหลาย สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของเวลา ความชอบ อายุและสภาพร่างกาย

โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอลเลจ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ทำการสำรวจข้อมูลของประชาชน 20,000 คน พบว่าการเล่นกีฬาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งจะช่วยลดความเครียดได้ 33% ขณะที่การทำงานบ้านและการเดินจะช่วยลดได้ 20% วันนี้เรามีไอเดียการออกกำลังกายที่มีทั้งประเภทหนักและเบา เดี่ยวและกลุ่มมาให้เลือก ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1.การเดิน

ไม่ว่าจะเป็นการเดินรอบบ้าน เดินบนลู่ หรือการไปเดินป่า ก็ล้วนเป็นการคลายเครียดที่ดี โดยเฉพาะการเดินท่ามกลางธรรมชาติ เช่นสวนสาธารณะ หรือการเดินป่า ทำให้เห็นวิวที่เปลี่ยนไป ช่วยลดความกังวลและอาจช่วยทำให้ความจำของผู้สูงอายุดีขึ้นด้วย

2.การทำงานบ้าน

ถ้าไม่สะดวกออกไปไหน การทำงานบ้านถือเป็นการขยับร่างกายแบบเบา ๆ ที่ให้ผลดีมหาศาล ช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดี

3.โยคะ

การออกกำลังกายแบบโยคะเป็นการออกกำลังกายที่เน้นการเคลื่อนไหวช้า ๆ ไปพร้อมกับลมหายใจ สร้างสมาธิ สามารถลดความเครียด ความกังวล และอาการทางประสาทได้ดี เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ใช้พื้นที่น้อย

4.การปั่นจักรยาน

เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก เพราะไร้แรงกระแทก

5.การวิ่งจ๊อกกิ้ง

การวิ่งพอให้เหงื่อซึม จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า แถมยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย

6.ว่ายน้ำ

เป็นการออกกำลังที่ได้ใช้ร่างกายทุกส่วน ทำให้ปอด หัวใจและกล้ามเนื้อแข็งแรง นอนหลับสบาย

ข้อดีของการออกกำลังนั้นมีมากมาย ส่งผลดีกับทั้งร่างกายและจิตใจ แค่ขยับเบา ๆ เพียงนิด แต่ได้ผลลัพธ์มหาศาล ว่าแล้วก็ลุกขึ้นขยับตัวกันเถอะ