ไขความจริง คุมกำเนิดวิธีไหนชัวร์ที่สุด
สำหรับคู่รักที่ยังไม่พร้อมจะมีลูก คงอยากจะทราบกันว่า การคุมกำเนิดวิธีไหนที่ให้ผลชัวร์ที่สุด หากคุณทั้งคู่วางแผนอยากมีลูกในอนาคต อยากเลือกใช้วิธีที่เมื่อเลิกคุมกำเนิดสามารถมีลูกได้ทันที หรือไม่อยากทำหมัน จึงควรเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราว
ซึ่งการคุมกำเนิดแบบชั่วคราว ก็มีหลากหลายวิธี ที่มีความแตกต่างกันทั้งเรื่องของขั้นตอนวิธีการ ค่าใช้จ่าย และผลข้างเคียงที่ส่งผลต่อร่างกาย
3 อันดับ วิธีคุมกำเนิดที่ให้ผลชัวร์
ก่อนอื่นเราตอบได้เลยว่าคงจะไม่มีวิธีไหนที่สามารถช่วยคุมกำเนิดให้ผลชัวร์ 100% ได้ดีไปกว่าการงดมีเพศสัมพันธ์อย่างแน่นอน การคุมกำเนิดแบบชั่วคราวด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่มีใครสามารถการันตีได้ เพราะการผิดพลาดก็สามารถเกิดขึ้นได้ จากการใช้งานที่ผิดวิธี ผิดเวลา หรือทำขั้นตอนใดผิดพลาดไป เป็นต้น ดังนั้น วันนี้เราจึงขอมาไขความจริง ด้วยการจัด 3 อันดับ วิธีการคุมกำเนิดที่ให้ประสิทธิภาพสูง และมีความปลอดภัยมาให้คุณได้ดูกัน
1.การฝังยาคุมกำเนิด
การฝังยาคุมกำเนิด ให้ประสิทธิภาพสูงถึง 99.95% (หากใช้อย่างถูกวิธี) ช่วยคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการฝังยาคุมกำเนิดเข้าไปใต้ผิวหนัง บริเวณใต้ท้องแขนของผู้หญิง ในข้างที่ไม่ถนัด ซึ่งเป็นแท่งพลาสติกเล็ก ๆ ขนาดเท่าก้านไม้ขีด บรรจุฮอร์โมนโปรเจสตินลงไป หลังจากนั้นฮอร์โมนในแท่งพลาสติก จะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่ร่างกาย
ฝังยาคุมกำเนิด ออกฤทธิ์อย่างไรกับร่างกาย?
- ยับยั้งการตกไข่ กลไกสำคัญที่ทำให้ตั้งครรภ์
- ทำให้มดลูกอยู่ในสภาวะที่ไม่พร้อมให้ตัวอ่อนมาฝัง
- ทำให้มูกปากมดลูกข้นหนืด ขัดขวางการเคลื่อนที่ของอสุจิ
- ลดขนาดและลดจำนวนต่อมที่ทำหน้าที่สำคัญ ในการสร้างสารคัดหลั่งที่เยื่อบุมดลูก
การฝังยาคุมกำเนิดให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงมากสะดวก รวดเร็วนอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งรังไข่ ช็อกโกแลตซีสต์และการเกิดเนื้องอกที่เต้านมได้อีกด้วย แต่อาจส่งผลต่อประจำเดือน หรือน้ำหนักตัวอาจเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย
2. การกินยาคุมกำเนิด
การกินยาคุมกำเนิด ให้ประสิทธิภาพสูงถึง 99.7% (หากใช้อย่างถูกวิธี) วิธีนี้ต้องอาศัยความมีวินัยในการกินยา เพราะต้องกินยาอย่างสม่ำเสมอ ห้ามลืม ห้ามขาด ยาคุมกำเนิดหาซื้อได้ง่าย สามารถขอคำแนะนำวิธีการกินที่ถูกต้องจากเภสัชกรได้
ยาคุมกำเนิดบรรจุฮอร์โมนเพศหญิงลงไป เมื่อกินเข้าไปแล้วจะไปออกฤทธิ์ต่อระบบสืบพันธุ์โดยตรง
ยาคุมกำเนิด ออกฤทธิ์อย่างไรกับร่างกาย?
- ช่วยยับยั้งการตกไข่
- ทำให้ผนังมดลูกบางจนตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้
- ส่งผลให้ปากมดลูกมีความเหนียวข้น ทำให้อสุจิไม่สามารถเคลื่อนผ่านเข้าไปได้
3. การใช้ถุงยางอนามัย
การใช้ถุงยางอนามัย ให้ประสิทธิภาพสูงถึง 98% (หากใช้อย่างถูกวิธี) ถือว่าเป็นวิธีคุมกำเนิดยอดนิยม เพราะเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และประหยัดค่าใช้จ่าย ที่สำคัญยังช่วยป้องกันการติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย เช่น การติดเชื้อ HIV โรคตับอักเสบบี โรคหูดหงอนไก่ โรคเริม โรคซิฟิลิส และโรคหนองใน เป็นต้น เพียงแค่ให้คุณผู้ชายใส่ถุงยางอนามัยขนาดที่พอดี และสวมถุงยางอนามัยให้ถูกวิธี
ถุงยางอนามัย ช่วยคุมกำเนิดได้อย่างไร?
- น้ำอสุจิของฝ่ายชายไม่สามารถเข้าไปในช่องคลอด เพื่อปฏิสนธิกับไข่ได้
- ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำอสุจิที่ปนมากับน้ำหล่อลื่นของฝ่ายชายเข้าไปในช่องคลอดได้
คุมกำเนิดแบบไหน หากเลิกใช้แล้ว มีลูกได้ทันที
เชื่อว่าคู่รักที่เลือกใช้วิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราว อาจจะวางแผนในอนาคตว่าอยากจะมีลูกด้วยกัน แต่ยังไม่พร้อมในตอนนี้ ทำให้เกิดความกังวลว่า การใช้วิธีคุมกำเนิดบางชนิด จะส่งผลต่อการตั้งครรภ์ หรือต้องรอเป็นระยะเวลานานจึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้ เช่น การฉีดยาคุมกำเนิด เมื่อหยุดยาแล้ว อาจต้องรอนาน 6-12 เดือน จึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้
ดังนั้น เราจึงสรุปมาให้คุณแล้วว่า วิธีการคุมกำเนิด ที่หากเลิกใช้แล้ว สามารถตั้งครรภ์ได้ทันที ได้แก่ การฝังยาคุมกำเนิด การกินยาคุมกำเนิด การใช้ถุงยางอนามัย การนับวัน และการใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด
หวังว่าวิธีการคุมกำเนิดทั้ง 3 วิธีที่เรานำมาแชร์วันนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อคุณไม่มากก็น้อย เพราะแต่ละวิธีเป็นวิธียอดนิยม ให้ประสิทธิภาพสูง สะดวก และมีความปลอดภัย หากคุณอยากลองเลือกใช้วิธีอื่น ๆ ดู แนะนำว่าให้คุณศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น